ความในใจจากนักเล่นเครื่องเสียงระดับ Mid End ที่กระเป๋าไม่หนัก(เช่นผม) กับคำว่า "สายลำโพง"

หลังจากที่ผมได้อ่านหนังสือของคุณชัยวัฒน์ "เล่นเครื่องเสียง หรือ โดนเครื่องเสียงเล่น" ผมก็พอจับใจความได้(บางส่วน) ดังนี้ครับ

1. เครื่องเสียงที่ดีไม่ใช่ว่าสักจะใช้แต่ของแพงแล้วจะออกมาดี เทคนิคมันอยู่ที่การ "Matching" มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น CD-Pre-Amp-Speaker ให้ลงตัวและพอเหมาะ

2. บางคนยอมลงทุนกับ Hardware ทุกชิ้นแบบชั้นดี แต่ไม่ลงทุนกับสาย หรือ เลือกสายไม่เหมาะกับระบบ ..ซึ่งการเลือกสายก็ขึ้นอยู่กับระบบนั้นๆและรสนิยมของเจ้าของด้วย บางคนชอบเบสเยอะ บางคนชอบเสียงกลางหรือบางคนชอบเสียงมาครบๆ ก็จะส่งผลต่อปัจจัยในการเลือกสายทั้งนั้น  แต่บางคนก็เลือกไม่ถูกกับรสนิยมตัวเองสักที 

3. การจัดงบประมาณ ผมเห็นด้วยเลยว่า "ระบบ"กับ"สาย" มีความสำคัญพอๆกันเพราะฉนั้นตราบใดที่คุณเล่นระบบแพงๆ แต่ไม่ลงทุนสาย คุณก็จะไม่มีทางที่จะดึงศักยภาพของระบบได้อย่างเต็มที่ (อันนี้เรื่องจริงครับ)

ถ้าคุณก้าวผ่านทั้ง 3 ข้อข้างบน นั้นล่ะแสดงว่าคุณคือคนเล่นเครื่องเสียง เพราะคนเล่นเครื่องเสียงเก่งๆก็เหมือนเภสัชที่จัดยาได้ถูกกับโรค ถ้าเป็นคนขายเครื่องเสียงเก่งๆ ก็คือ จะสามารถจัดระบบให้ตรงความต้องการของลูกค้า ภายในงบประมาณที่กำหนด คือจับไอ้โน้นไอ้นี้ มาผสมปนเปกันให้ได้รสชาตที่ "กลมกล่อม ลงตัว..ตามรสนิยมลูกค้า"

ทีนี้ก็คงจะมาถึงว่าเกี่ยวอะไรกับชื่อกระทู้!!???!!



จุดมันอยู่ที่ว่า ผมได้มีโอกาสไปคุยกับ "น้าอ้อ" ที่พาราไดรซ์  ผมบอกว่าผมใช้ลำโพง B&W 685 อยู่ น้าอ้อก็พยายามที่จะแนะนำเจ้าสาย JPS Super Blue 2 อยู่มากๆ เพราะน้าอ้อบอกว่ามันเกิดมาซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะ Super Blue 2 + B&W มันช่างเหมาะกันมากๆ แต่ด้วยราคากว่าเกือบแปดร้อยต่อเมตร มันก็ไม่ใช้ราคาถูกๆนัก(สำหรับ พนง.เอกชนเงินเดือนน้อยนิด ) ตัดสินใจอยู่นานจนได้อ่านหนังสือของคุณชัยวัฒน์นี่ล่ะ ก็ทำให้ผมอยากเพิ่มเงินอีกสักนิดกับเจ้า Super Blue 2 จนสุดท้ายก็ไปซื้อที่สาขารังสิตมาจนได้


หลังจากนำ Super Blue 2 มาแทนที่ Van Den Hul Gold Water สิ่งที่สัมผัสได้ชันเจนนั้นคือ "สปีด" ของเสียงที่เร็วขึ้นกระชับขึ้น แรงปะทะของตัวโน๊ต"คมขึ้น"  เสียงแหลม "กลม" ไม่บี้แบน ให้ระคายหู มีความละเอียดละเมียดละไมดี...เสียง "เบส" มีความสะอาดเก็บตัวเร็วมากยิ่งขึ้น  โดยเฉพาะที่ชอบที่สุดคือเสียงกลาง "ที่อวบ อิ่มและชัด" มากๆ  

สรุปว่า การลงทุนกับสายเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย มันแทบจะทำให้รู้สึกเหมือนผมใช้ลำโพงแพงขึ้นอีกเป็นหมื่น  หรือจะพูดอีกอย่างว่า มันดึกศักยภาพของ 685 มาได้อย่างหมดจดจริงๆ ต้องยอมรับว่า JPS แม้ว่าจะดูใหม่ในตลาด แต่คุณภาพคุ้มค่าเกินราคาจริงๆ ไม่แปลกใจว่าทำไมทีงานปิยะนัสถึงเชียร์ JPS นัก..


ผมเชื่อว่าในระดับนักเล่น Mid-End ทั่วไป ยังไม่ปลักใจเชื่อกับเรื่องของสายมากนักจะลงทุนกับสายก็ยังกลัวว่าจะไม่คุ้ม ไม่เหมือนระดับ Hi-End ที่ยกหูกริ๊งเดียวทีมงานก็วิ่งเอาสายไปลองถึงบ้าน แต่นักเล่นระดับกลางที่ต้องแบ่งซื้อสายเป็นม้วนๆ ไม่มีของให้ลอง จะลงทุน 5-6พัน เพื่อซื้อมาวัดดวง ก็ดูจะเป็นจำนวนเงินที่ไม่ใช่น้อยๆ 

แต่วันนี้ผมมาคอนเฟริมครับว่าเรื่องของสาย เป็นสิ่งสำคัญมากๆ หากคุณลงทุนกับเครื่องเสียงไปแสนกว่าบาท แต่ใช้สายเมตรละ 80 -250 บาท คุณจะไม่มีวันได้ฟังเครื่องเสียงที่คุณภาพเท่ากับจำนวนที่คุณซื้อมาเลย  กัดฟันอีกนิด กับสายดีๆอย่าง JPS Super Blue 2 คุณจะพบกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และอาจต้องอุทานในใจว่าว่า "เห้ยยยยย เครื่องเสียงเรา มันดีขนาดนี้เลยหรือนี่" 

จนถึงวันนี้ผมกับ "ปิยะนัส" รู้จักกันมายาวนาน และครอบครัวของผมก็เป็นลูกค้าปิยะนัสมาโดยตลอด เพราะเล่นเครื่องเสียงมากว่า 15 ปีแล้วครับ..... ซึ่ง 15 ปี บนเส้นทางการเล่นเครื่องเสียงไม่มีครั้งไหนเลยที่ขอคำแนะนำจาก "ปิยะนัส" แล้วผิดหวัง....วันนี้พูดได้เต็มปากครับว่า  

สิ่งที่ "ปิยะนัส"แนะนำ มันคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าจริงๆ 

พี่น้องชาว Mid-End ที่ยังกลัวกับการลงทุนกับสาย..ขอให้เชื่อเถอะครับ ว่า JPS Super Blue 2 มันโค-ตะ-ระ ดีจริงๆครับ..

ความคิดเห็น