แชร์ประสบการณ์การเล่นเครื่องเสียง : บางเรื่องที่มือใหม่ไม่รู้ หรือมือเก่าอาจมองข้าม

ประสบการณ์การเล่นเครื่องเสียงระดับ Mid End ที่ต้องเผชิญกับชีวิตจริง เช่น ไม่มีห้องฟัง , การจัดวางเครื่องต้องปะปนกับทีวีและอุปกรณ์อื่นๆมากมายในห้องนั่งเล่น , ปลั๊กต่อต่างๆก็ธรรมดาๆ   ประสบการณ์แบบนี้ผมเชื่อว่าเป็นประสบการณ์จริงกับนักเล่นในท้องตลาดทั่วไปกว่า 70% อีก 30% ที่เหลือ ก็คงเป็นเหล่าเทพที่เล่นระดับ Super Hi-End มีห้องฟัง ปลั๊กต่อต่างๆนานาๆเรียกได้ว่าระดับปุถุชนคนธรรมดาหาเงินทั้งชีวิตก็ยังมีรายได้ที่ไม่อาจเทียบเท่าห้องฟังเทพๆสักห้องนึง


                ในเมื่อชีวิตจริงไม่ได้สวยหรูเหมือนในความฝัน นักเล่นระดับกลางๆก็จะต้องเก็บเล็ก ผสมน้อย สารพัดเทคนิคเพื่อดึงศักยภาพของเครื่องเสียงให้ดีที่สุดซึ่งก็นำพามาสู่บทความนี้ ที่อยากแบ่งเทคนิคเล็กๆน้อยๆสารพัดเทคนิค เพื่อทำให้เครื่องเสียงของเรานั้นมีทิศทางของเสียงที่ดียิ่งขึ้น เริ่มกันไปทีละข้อเลยดีกว่าครับ

1.ขาตั้งลำโพงไฉน – มือเก่าอ่านมาแล้วอาจหัวเราะ แต่แท้จริงแล้วยังมีนักเล่นไม่น้อยที่ไม่กล้าลงทุนขาตั้งลำโพงดีๆสักตัว ยังมีนักเล่นหลายๆคนที่ยังวางลำโพงกับโต๊ะบ้าง , ชั้นวางทีวีบ้าง ด้วยหลายๆสาเหตุ เช่น กลัวเกะกะ , ไม่กล้าลงทุน เป็นต้น แต่บอกได้เลยครับว่า ลำโพงของเท่าหากวางบนชั้นวางทีวีกับขาตั้ง เสียงแทบเปลี่ยนเป็นหน้ามือเป็นหลังมือเชียวล่ะ แล้วอย่าลืมเรื่องของวัสดุของขาตั้ง ,รูปแบบ ,จำนวนเสา ทั้งหมดล้วนแต่มีผลกับเสียงทั้งสิ้นนะครับ

2.การจัดวางและการโทอิน – ยอมเสียเวลาสักนิดเรื่องตำแหน่งจากจัดวางลำโพงนะครับ ไม่ว่าจะเป็นระยะห่างจากผนังหลังและระยะชิดห่างของลำโพง รวมถึงการโทอินมีผลทั้งสิ้น  เอาง่ายๆอย่างน้อยตำแหน่งลำโพงที่ลงตัว เสียงร้องจะต้องอยู่สูงเหนือกว่าตู้ลำโพงเล็กน้อยและมีตัวต้นสัมผัสได้ และอย่าลืมให้เสียงเบสทิ้งลงพื้นไม่ลอยไปทั่วห้องด้วยนะครับ 

3.“สายอากาศ” - ตัวบ่อนทำลายความบริสุทธ์ของเสียง – หลายครั้งที่ชุดเครื่องเสียงของเราต้องวางติดกับโทรทัศน์ และสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดคือ “สายอากาศ” หากมันพาดลงไปบนสาย RCA หรือสายลำโพง ความบริสุทธ์ของเสียง ที่เห็นชัดที่สุดคือความสงัดและความสะอาดของช่องไฟ เพราะฉนั้นควรระมัดระวังการพาดของสายอากาศกับสายต่างๆ หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรน้ำกระดาษฟอยหรือฟองน้ำมาหุ้มสายอากาศ ก็สามารถช่วยได้ระดับหนึ่งครับ

4.ปลั๊กพ่วงอย่ามองข้าม – ผมเป็นคนที่ลงทุนซื้อของได้ทุกอย่าง มีอย่างเดียวที่ผมไม่ลงทุนนั้นคือ “ปลั๊กพ่วง” และแน่นอนมันส่งผลกับเสียงอย่างชัดเจน ชนิดว่า “โอ้โห” เลยล่ะครับ หากเล่นของแพงระดับ Audio Grade หรือ Hospital Grand ไม่ได้ อย่างน้อยก็ควรจะลงทุนในยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน เช่น Panasonic เป็นต้น โดยเฉพาะของจีน ของไตหวัน ของไทย โยนทิ้งไปได้เลย เพราะ QC ต่ำมาก ผลคือ เสียงจะอั้น ไดนามิคมาไม่สุดแบบที่ควรจะเป็นครับ

5.ทิศทางของสายสัญาณและสายลำโพง- สายลำโพงทั่วไปในท้องตลาดโดยเฉพาะยี่ห้อมาตรฐาน มักจะมีลูกศรชี้ไว้ โดยเสียบจากเครื่องเล่นไปสู่ปลายทางตามลูกศร แต่สาระสำคัญไม่ใช่ว่าเราต้องเสียบสายตามลูกศร แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่า L และ R ควรเสียบสายไปในทิศทางเดียวกันเพื่อให้เวทีเสียงนิ่ง อิมเมจชัดเจนยิ่งขึ้น แต่สำหรับสายที่ไม่มีลูกศร ให้ดูที่ตัวหนังสือเหมือนเราอ่านหนังสือเลยครับ ไล่จากซ้ายไปขวา เช่น AudioQuest ก็ให้ด้าน A อยู่ที่เครื่องเล่น ด้าน t อยู่ที่ปลายทาง เป็นต้น

6.ย้อนศรดูบ้างก็ได้- อย่างที่บอกว่าทิศทางของสายลำโพงไม่ใช่สาระสำคัญ ลองต่อย้อนทิศทางดูบ้างก็ได้ จะได้แนวเสียงที่แตกต่างออกไปกับการเสียบตามทิศ บางรุ่นให้เสียงที่ดีขึ้น บางรุ่นให้เสียงที่แย่ลง แต่ลองได้ ไม่มีอะไรเสียหายครับ แต่ผมเคยใช้สายของ Audio Quest รุ่น F-18 ผลปรากฎการต่อสายแบบย้อนทิศ จะได้เสียงที่อวบอ้วนขึ้น มิติและเวีทีเสียงดีขึ้น ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ!!!

7.ห่างกันเซนเดียวก็มีผล - ความสั้นยาวของสายลำโพงนั้นเองครับ ทั้งสองข้างควรจะเท่ากันเปะๆ หางกันเซนเดียว อิมเมจเสียงหายไปเป็นกองเลยครับ

8.เปิดหน้ากากลำโพง – ได้เสียงที่สะอาดขึ้น แต่อาจไม่กลมกล่อม อันนี้แล้วแต่ความชอบครับ ส่วนตัวผมขอบการปิดหน้ากากฟังเพลงมากกว่า เพราะเหมือนมันกลมกล่อมได้ที่กว่าครับ

9.อุณหภูมิห้อง มีผลต่อเสียง – ทดลองง่ายๆเลยว่าห้องฟังเย็นๆ ให้เสียงที่อิ่มและนุ่มกว่าห้องฟังร้อนๆ อันนี้ต้องลองนะครับเพราะมันเกี่ยวกับกับการเคลื่อนที่ของมวลอากาศ รวมถึงอุณภูมิของเครื่องเล่นและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้เสียงที่ดีที่สุดต้องได้อุณหภูมิที่เหมาะสมครับ ลักษณะเดียวกับขับรถที่ต้องให้เครื่องร้อนได้ที่ ยังไงอย่างงั้นเลยครับ ดังนั้นจะเปิดเครื่องเสียงโชว์เพื่อน อย่าลืมเปิดแอร์และวอมล์เครื่องให้ได้ที่ก่อนนะครับ ถ้านึกไม่ออก ให้นึกถึงเบียร์ครับ เบียร์ยี่ห้อเดียวกัน กระป๋องเดียวกัน รสชาติเวลาเย็น กับเวลามันไม่เย็นอะไรอร่อยกว่ากัน เครื่องเสียงก็เช่นเดียวกันเลยครับ

10.เฟสปลั๊ก – ตรวจดูให้ถูกต้อง เรื่องขั้วปลั๊ก ซึ่งเห็นผลกับเสียงมากๆ โดยไล่ดูสายจากแอมป์ของเราว่าอันไหนขึ้นบวก จากนั้นตรวจสอบที่ปลั๊กว่าขั่วบวกอยู่ด้านใด จากนั้นก็เสียบให้ถูกต้อง จะมีผลกับเสียงมากๆเลยครับ โดยพาะเรื่องของความอิ่มและความมีน้ำมีนวลของเสียง จริงๆครับ

11. เฟสซับวูฟเฟอร์ - ผมเชื่อว่าปุ่ม เฟส ในซับวูฟเฟอร์ เป็นปุ่มสุดท้ายที่มือใหม่จะเลือกปรับ แต่ปุ่มนี้นี่ล่ะ ที่สำคัญกับคุณภาพของเสียงเบสมากๆ เพราะหากเราเลือกเฟสไม่ถูกต้องแล้ว เสียงเบสที่ได้อาจน้อยลง เนื่องจากเฟสซับไปหักล้างกับเฟสลำโพงครับ เรื่องนี้สำคัญมากจริงๆ ส่่วนเทคนิคการจัดวางมีข้อมูลเพียบอยู่ในอินเตอร์เนทครับ 

12. อย่าหลอกตัวเอง – เสียงดีก็บอกว่าดี เสียงไม่ดีก็บอกว่าไม่ดี อย่าหลอกตัวเองเพราะชอบยี่ห้อ หรือ เพื่อนเชียร์ สุดท้ายซื้อกลับมาบ้าน มานั่งปวดหัวไม่จบไม่สิ้น...ซื้อเครื่องเสียงต้องตามใจตัวเองเท่านั้นครับ...สิ่งที่ดีอาจไม่ได้ชอบ สิ่งที่ชอบอาจไม่ได้ดี...เลือกกับสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง ดีที่สุดครับ

หวังว่าจะมีประโยชน์กับมือใหม่บ้างนะครับ เรื่องง่ายๆที่เราอาจมองข้ามไป
ขอให้มีความสุขกับชุดเครื่องเสียงที่รักครับ  

ความคิดเห็น