Polk Audio TSX330T ลำโพงตั้งพื้น (Tower) ตระกูลใหม่ล่าสุดจาก Polk Audio ที่อยู่ระหว่างกลางของตระกูล TSi และ RTi จุดเด่นของลำโพงตระกูลนี้นั้นก็คือ คุณภาพเสียงดุจ RTi และคงไว้ด้วยระดับราคาที่ใกล้เคียง TSi ซึ่งความน่าสนใจของลำโพงตรงกูลนี้มีอะไรบ้าง มาติดตามกันเลยครับ
1.เริ่มจากตู้ผิวทรงโค้ง...ตู้ลำโพงที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลก คือ ทรงไข่ เช่น ตู้ลำโพงของ B&W 800 Series , ISOPHON RC Series , Arcona Series เป็นต้น แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีของลำโพงราคาถูกระดับ Low-End ก็สามารถออกแบบผิวของตู้ลำโพงแบบโค้งได้ แม้จะไม่ได้เป็นทรงไข่แบบเทคโนโลยี่ขั้นสูง แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติการผลิตลำโพงที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงแต่ด้วยราคาจำหน่ายที่ไม่สูงเลย และใช้ไม้ MDF หนา ¾ นิ้วซึ่งลดเรโซแนนภายในตู้ได้เป็นอย่างดี
2.ลำโพง 3 ทางแท้ๆที่ Setup จุดตัดความถี่ได้อย่างครอบคลุม
3.ดอกลำโพงความถี่สูงแบบ Dynamic Balance เป็นประเภท Soft Dome แต่ชุบน้ำยาพิเศษของ Polk Audio ทำให้ย่านความถี่สูงได้ทั้งความนุ่มนวลไม่ระคายหู แต่ยังคงไว้ซึ่งแรงประทะและทรานเซียนที่ดี
4.ผิวลำโพงเสียงกลาง-ต่ำแบบลามิเนต แข็งแรงและน้ำหนักเบา ให้เสียงที่กระชับและสะอาดในทุกย่านเสียง
5.ท่อระบายเบสด้านหน้า ทำให้ง่ายต่อการจัดวาง
6.คุณภาพงานผลิตเนียบเกินราคา ดีกว่าหลายๆยี่ห้อในท้องตลาด
อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมในการทดสอบในครั้งนี้ ก็คงเป็นชุดหากินเดิมๆของผม ประกอบด้วย
-เครื่องเล่น CD Marantz CD53 ไม่มีการโมใดๆทั้งสิ้น
-สาย RCA Monitor จำชื่อรุ่นไม่ได้แล้วครับ
-Int.amp Cambridge Audio 840A XD Class
-สายลำโพง JPS Super Blue 2
-ลำโพง Polk Audio TSX330T เบรินอินมาแล้วประมาณ 100 ชั่วโมง
-จัดวางในห้องนอน โดยไม่ได้ปรับสภาพอลูสติกใดๆ
เริ่มจากเพลง Jazz Variance จากผลงานการผลิตของ Manger
เป็นธรรมเนียบสำหรับการทดสอบเครื่องเสียงที่ต้องใช้เพลงนี้ในการทดสอบ เพราะผมเชื่อว่าหลายๆท่านน่าจะเคยได้ลองฟังในงานทดสอบเครื่องเสียงหลายๆงาน ซึ่งเพลงนี้มีจุดเด่นในการทดสอบ Transient , Dynamic, Deep Bass, cleanliness , Harmonic แรกเริ่มเลยผมต้องบอกว่า Polk Audio ทำการบ้านมาได้ดีมากๆ เนื่องจาก Soft Dome มักจะให้แรงปะทะไม่ดีนักสำหรับเพลงที่เป็นเครื่องเคาะเช่นนี้ แต่ด้วยสารเคลือบพิเศษอย่างที่ผมได้กล่าวไปในช่วงต้น ทำให้แรงปะทะของเจ้า TSX330T ทำออกมาได้ค่อนข้างดี แม้ความกังวาล ความใสและความพริ้วของเสียงจะไม่ได้ทอดยาวอย่างลำโพง Hi-End แต่ด้วยราคาค่าตัวเพียงเท่านี้ ผมบอกได้เลยว่า “เกินความคาดหวัง” ไปมาก แรงปะทะของ “กลองแต๊ก” ทำได้ดีแม้ไม่ปะทะอย่างกระชากอารมณ์เหมือนวัสดุราคาแพงแบบเคฟล่าหรือเส้นใยคาร์บอน แต่อัตราเร่งก็จัดว่าสมจริงและสมราคา ด้วยกรวยลำโพงแบบเก่าที่ไม่ได้ใช้ดัสแคปหัวกระสุน ทำให้น้ำหนักของกรวยลำโพงค่อนข้างหนักจึงเสียอัตราเร่งไปบ้าง และที่แน่ๆในช่วงเสียงเบสที่ทรงพลัง เจ้า TSX330T ทำได้ชนิดที่ว่า “เก้าอี้สะเทือน” โดยปราศจากอาการคลางโดยสิ้นเชิง ซึ่งความดีความชอบต้องยกให้ตู้ลำโพงผิ้วโค้ง ที่ช่วยแบกรับแบกสู้กับดอกลำโพงที่ต้นทุนไม่สู่นักได้อย่างลงตัว เสียงที่ได้จึงบอกได้ว่าลำโพงแพงกว่านี้เท่าตัวยังต้องตะลึงแล้วกันครับ (แต่ Int.840A ตัวนี้พละกำลัง 120W / 8 Ohm จึงมีผลทำให้ควบคุมลำโพงได้อยู่หมัดด้วยนะครับ)
เพลง Careless Whisper โดย Olive จากอัลบั่ม Audiophile Live Song เพลงที่ 1
จุดเด่นของเพลงนี้ทำให้เรารู้ว่า Polk Audio ไม่ได้เอาของเก่ามาเล่าใหม่ ไม้ได้จับโน้นผสมนี้เพื่อหาของใหม่ๆมาขาย แต่เพลงนี้มันทำให้เห็นว่า Polk Audio ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีโดยเฉพาะในเรื่องการ Setup จุดตัดความถี่ของลำโพงทั้ง 3 ตัว บรรยากาศของเพลงนี้ที่ขับกล่อมจาก TSX330 ให้ความอิ่มนุ่มของเสียงกลางที่ขนาดใหญ่โตและให้เสียงเบสที่กระชับ หนักแน่ แม้รายละเอียดอาจเป็นรองลำโพงฟังเพลงแต่ก็สามารถตอบสนองทุกย่านความถี่ได้อย่างครบถ้วนพอเหมาะไม่ขาดไม่เกิน ซึ่งแผ่นนี้เพลงนี้อัดเสียงมาคอสทราสค่อนข้างมาก แต่ทุกย่านความถี่เสียงลำโพงก็ยังตอบสนองความถี่ได้อย่างราบเรียบไม่หนวกหู
จุดเด่น
1.การตอบสนองความถี่ย่านต่างๆได้อย่างราบเรียบ แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้ต้นทุนอย่างคุ้มค่า แต่ใช้การออกแบบอย่างพิถีพิถันธ์ ทำให้เมื่อทุกอย่างจับมาผสมผสานกัน ผลที่ออกมาทำได้ดีเกินความคาดหวังในทุกๆด้าน
2.แรงปะทะดี กลางอิ่มนุ่ม มีความเป็นกลางสูง
3.เบสสะอาด เก็บตัวเร็ว ให้ Deep Bass ได้ดีและนิ่ง
ส่งท้าย
ลำโพงในยุคนี้และด้วยราคาระดับนี้ เป็นความท้าทายของของผู้ออกแบบ เพราะมันเกิดมาก้ำกึ่งระหว่างลำโพงฟังเพลงและดูหนัง ซึ่งผมบอกได้เลยว่าเจ้า TSX330T มันตอบสนองได้ดีทั้งสองด้านพอๆกัน
ดังนั้นมันจัดได้ว่าเป็นลำโพงตั้งพื้นที่ราคาคุ้มค่าแห่งปี เหมาะสำหรับนักเล่นที่อยากลองเล่นลำโพงตั้งพื้นที่มีงบประมาณไม่สูงนักครับ และหากเทียบกับคู่แข่งในราคาระดับนี้แล้ว ผมบอกได้เลยว่า TSX330T กินขาดทุกกรณีครับ...โดยเฉพาะราคาโปรโมชั่นของปิยะนัส ทำให้ผมเป็นเจ้าของได้ในราคาเพียง 11,500 บาท ในขณะที่ตัวแทน “พลังซื้อ” จำหน่ายอยู่ที่ 15,900 บาทเชียวนะครับ หุหุ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น