Review จากผู้ใช้งานจริง : Kawasaki Versus X300
หากคุณกำลังมองหาจักรยานยนต์สักคันที่ใช้สำหรับเดินทางใกล้ แบกสัมภาระได้ น้ำหนักเบา วิ่งทางฝุ่น และประหยัดน้ำมัน ผมบอกได้เลยว่าเจ้า Versys X300 คันนี้ ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอน
จากรถใน Series Versys ของ Kawasaki ที่สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในระดับ 650cc และ 1,000 CC ก็มาถึงคราวน้องเล็กสุดอย่าง X300 ที่ผมจะมารีวิวให้ทุกท่านได้อ่านในวันนี้ครับ
ภาพลักษณ์ภายนอก
มุมมองโดยทั่วไปหลายคนอาจมองว่ารูปทรงของมันเชยๆ ไม่สมส่วน ซึ่งเมื่อก่อนผมก็มีมุมมองแบบนั้นเช่นกัน แต่เมื่อผมได้เห็นรุ่น Top ของ Versys X300 ต้องทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองไป เพราะเมื่อมีปี๊ป การ์ดแฮนด์ แคลชบาร์พร้อมสปอร์ตไลท์ ขาตั้งคู่ ความหล่อของ Versys X300 ก็จัดว่าหล่อไม่แพ้ใคร มาพร้อมกับล้อซี่ลวดที่ 19 นิ้วในล้อหน้า และ 17 นิ้วในล้อหลัง บอกได้ถึงความเป็นทัวร์ริ่ง แอดแวนเจอที่ไม่จำกัดเฉพาะทางดำ แต่ยังบ่งบอกถึงความสามารถวิ่งในทางฝุ่นได้อย่างดีเยี่ยมนั้นเอง
โดยสรุป ในสายตาผมบอกได้เลยว่าตัว Tourer มันหล่อเหลาเอาการ เพียงแค่นำมาใส่ปี๊ปท้ายก็หล่อลงตัวทันทีครับ
ไฟหน้าและไฟสปอร์ตไลท์
ไฟหน้าเป็นแบบหลอดไส้ ฮาโลเจนพร้อมกับไฟหรี่อีก 2 หลอด มองดูก็รู้ทันทีว่าเป็นโคมเดียวกับที่ใช้ใน Z650 ซึ่งมีความสามารถในการให้แสงที่สว่างอย่างเพียงพอในการวิ่งช่วงค่ำคืน ซึ่งหากใครรู้สึกว่ามันยังสว่างไม่เพียงพอก็สามารถซื้อหลอด LED มาติดตั้งได้ ส่วนไฟสปอร์ตไลท์ให้มา 2 ดวง มีความสว่างในลักษณะของการกระจายแนวกว้าง มากกว่าที่จะเน้นพุ่งตรงไปด้านหน้า ซึ่งเป็น OEM ที่ผลิดโดย PIAA ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟยี่ห้อดัง การันตีได้ถึงความทนทานอย่างแน่นอน (ราคาเบิกศูนย์หมื่นกว่าบาท)
แผงหน้าปัด
ยกมาจาก Kawasaki Ninja ที่มีข้อมูลในหน้าปัดอย่างครบถ้วน เช่น ความเร็วเป็นตัวเลขดิจิตอลขนาดใหญ่ รอบเครื่องยนต์ที่มี Redline ที่ 12,000 รอบ ตำแหน่งเกียร์ ความร้อน ทริปAB ระดับความร้อน อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงหรือสามารถปรับให้เป็นการคำนวณว่าน้ำมัน 1 ถึง จะสามารถวิ่งได้อีกกี่กิโล รวมถึงไฟเตือนต่างๆ ก็มีมาให้ครบ มีไฟสีแดงทที่เตือนว่าต้องดับเครื่องยนต์ทันทีซึ่งอาจจะมีความผิดปกติกับระบบน้ำมันหล่อลื่นและระบบระบายความร้อนครับ
ช่วงล่าง
เป็นโช๊คแบบเทเลสโคปิค แกนโช๊คขนาดใหญ่เทียบเท่ารถ 650cc มีระยะยืดยุบค่อนข้างมาก สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านหลังเป็นโช๊คที่ผลิดโดย Showa การันตีความนุ่มนวล โดยรวมในยามขับขี่จะพบว่าช่วงล่างของ Versys X300 สามารถดูซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นการผ่านเนินกระโดด หลุม หรือทางดิน ก็ทรงตัวได้อย่างมั่นใจ แต่ด้วยขนาดล้อหน้า 19 นิ้ว อาจมีอาการ "เหวอ" บางเวลาเจอขอบถนน แต่อาการดังกล่าวก็แก้ไขด้วยการเปลี่ยนยางให้มีขนาดใหญ่ขึ้นก็ช่วยได้ค่อนข้างมาก ส่วนช่วงล่างทางด้านหลังก็สามารถรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี จากการทดสอบของผมด้วยการบรรทุกเต็มพิกัด ประกอบด้วยคน 2 คน สัมภาระเต็มปี๊ป 3 ใบ น้ำหนักรวมๆ ประมาณ 170 กิโล ก็พบว่า การทำงานของช่วงล่างยังสามาถตอบสนองได้เป็นอย่างดี ไม่พบอาการโช๊คสุดหรือการกระแทกแต่อย่างไร เข้าโค้งและลุยหลุมได้อย่างมั่นใจมากๆ ซึ่งล้อซี่ลวดที่ผมมองว่ามันหล่อ ยังมาพร้อมกับขอบของ DID ที่แข็งแรง มั่นใจได้อย่างแน่นอน
ถังน้ำมันเชื้อเพลิง
ขนาด 17 ลิตรสามารถเดินทางไกลได้อย่างมั่นใจ โดยสามารถทำระยะทางได้ประมาณ 340 กิโลต่อการเติมน้ำมัน 1 ครั้ง ซึ่งเพียงพอต่อการเดินทางไกลที่ไม่ต้องแวะบ่อยๆ
ประสบการณ์จากการใช้งานจริง
ต้องบอกว่าด้วยความที่เป็นเครื่องยนต์ขนาด 300cc กับขนาดตัวรถที่ค่อนข้างใหญ่ ทางคาวาซากิจึงเซ็ตมาให้เจ้า Versys คันนี้จะเป็นรถใช้รอบสักหน่อย โดยที่ความเร็ว 100 จะใช้รอบประมาณ 8 พันรอบ และสามารถทำเร็วได้สูงสุดประมาณ 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งหากใครที่ใช้ความในการเดินทางประมาณ 100-120 ก็ต้องบอกว่าเพียงพอ แต่หากใครที่ขับขี่เร็วกกว่านี้ก็แนะนำให้มองหารถที่มีขนาด CC ใหญ่ขึ้น อัตราเร่งก็จัดว่าปรูดปร๊าดดด สามารถเร่งแซงได้มั่นใจพอสมควร แต่หากบรรทุกสัมภาระเต็มลำก็อาจจะรู้สึกว่าอืดไปบ้าง แต่ก็แลกมาด้วยอัตราความสิ้นเปลืองที่ 27 กิโลเมตร/ลิตร หรือถ้าลากระดับความเร็วที่ 130-140 ยาวๆ ก็จะได้ประมาณ 23-24 กิโลเมตร/ลิตร
การใช้รอบการเปลี่ยนเกียร์ก็ประมาณ 5-6 รอบจะกำลังดี เพราะเมื่อเปลี่ยนเกียร์ถัดไปรอบเครื่องยนต์จะตกลงมามาประมาณที่ 4500 รอบ ซึ่งเป็นช่วงที่เครื่องยนต์มีแรงบิดสูงที่สุด ทำให้ไล่อัตราเร่งไปได้อย่างต่อเนื่องและเหลือเฟือครับ
ส่วนชิวหน้าเดิมที่ติดรถมานั้น ก็สามารถกันลมได้ระดับหนึ่ง ซึ่งด้วยส่วนตัวผมเป็นคนไม่ขับขี่เร็วมากนัก ก็ต้องบอกว่าชิวหน้าเพียงพอต่อการเดินทางไกล รวมทั้งของเดิมติดรถเป็นพลาสติกที่แข็งทำให้ไม่กระพรือรบกวนสายตาขณะใช้ความเร็วสูง
จุดเด่นของ Versys คันนี้ที่ทำให้ผมประทับใจมากๆ นั้นก็คือ น้ำนักที่เบา ควบคุมง่าย หากใครมองหารถทัวร์ริ่งที่สามารถลุยได้ด้วยก็ต้องบอกว่าเจ้า Versys คันนี้ตอบโจทย์แน่นอน เพราะจากการดูรีวิวต่างประเทศ มักจะเอาเจ้า Versys คันนี้ไปลุยแข่งกับเจ้า CRF จากค่าย Honda ซึ่งดูจากผลการทดสอบแล้วก็ต้องบอกว่ามันลุยแทบจะไม่แตกต่างกันเลย หากไม่ใช้เส้นทาง Off Road ที่โหดร้ายเกินไป
จากการนำไปขึ้นเส้นทางชันๆ แบบภูทับเบิก แม้จะบรรทุกเต็มลำ ก็บอกได้ว่ามัน คือ "ขนม" สำหรับ Versys X300 ใส่เกียร์ 2 ดันขึ้นยาวๆ เร่งแซงได้อย่างมั่นใจครับ
ส่วนข้อด้อยที่พบเจอ ก็ยังไม่เจออะไรที่เป็นปัญหาจุกจิกหัวใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการเดินทางไกลบางช่วงก็จะเจอปัญหาด้านการทำความเร็วอยู่บ้าง เพราะเมื่อเลย 120 ขึ้นไป รถก็มีอาการที่เหนื่อยอยู่บ้าง ดังนั้น หากใครที่ชอบใช้ความเร็วที่สูงกว่านี้ก็ต้องมองข้ามเจ้าตัวนี้ไปเลยครับ
โดยสรุป จากจุดเด่นๆหลายๆอย่าง รวมทั้งความพิถีพิถันของคาวาซากิ ที่รังสรรค์ Versys คันนี้ขึ้นมา ก็บอกได้เลยว่าเป็นความประทับใจที่ผมรักรถคันนี้มากๆ และพาเดินทางมามากมายหลายที่ เช่น ภูทับเบิก แม่แจ่ม ดอยอินทนนท์ น้ำตกเต่าดำ เขาใหญ่ สวนผึ้ง หัวหิน ฯลฯ และทริปต่อไปที่ผมจะไปให้ได้นั้นก็คือ เกาะช้าง นั้นเองครับ
Old Man Touring
August 2024
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น